ในช่วงที่อยู่ในห้องธรรมดา พวกเราต่างดีใจ นึกว่าจะได้กลับบ้านซะที แต่น้องปอนด์ก็ยังคงมีเสมหะ แต่อาการของปอดก็หายจากติดเชื้อแล้ว
เมื่อวันจันทร์ที่ 25 ที่ผ่านมา คุณหมอได้เปลี่ยนท่อที่คอเป็นแบบโลหะ เพื่อที่พร้อมจะให้เอากลับไปใช้ที่บ้านได้ และก็อยากรอดูอาการให้เสมหะหมดไปมากกว่านี้ก่อนจึงจะให้กลับบ้านได้
สิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น วันนั้นแม่น้องปอนด์ไปทำงานแล้ว อาอี๊น้องปอนด์เฝ้าอยู่คนเดียว ช่วงเวลา 10 โมงเช้าผมได้รับโทรศัพท์ บอกว่าช่วยเข้ามาที่โรงพยาบาลเร็วๆ ผมก็รีบขับรถออกจากบ้านทันที ไปถึง เห็นน้องปอนด์ระดับออกซิเจนลดลงต่ำอีกเพราะเสมหะอุดตันหลอดลม เข้าใจว่ามีอาการติดเชื้อของปอดอีกแล้ว
คุณหมอจำเป็นต้องเปลี่ยนท่อที่คอกลับไปเป็นแบบพลาสติกเหมือนเดิม เนื่องจากต้องกลับไปต่อกับเครื่องช่วยหายใจอีกครั้ง เพราะว่าท่อโลหะไม่สามารถเสียบเข้าเครื่องช่วยหายใจได้ โชคไม่เข้าข้างที่ท่อแบบพลาสติกไม่มีขนาดที่เหมาะกับน้องปอนด์ เพราะมีขนาดที่ยาวเกินไป คุณหมอสั่งย้ายน้องปอนด์กลับเข้าไปในห้องไอซียูอีกครั้ง
หลังจากทีมคุณหมอ และพยาบาลได้ช่วยกันแก้ไขปัญหาเสมหะอุดตันหลอดลมที่คอ น้องปอนด์ก็มีอาการที่ดีขึ้น ท่อที่มีขนาดพอดีถูกส่งมาให้ช่วงบ่ายๆ และได้ถูกเปลี่ยนให้น้องปอนด์ในช่วงเช้าวันที่ 28 แต่น่าเสียดายที่น้องปอนด์จะต้องกลับเข้าไปในไอซียู
ไม่เป็นไร เพราะพี่ๆ พยาบาลที่ไอซียู รู้จักสนิทสนมกับน้องปอนด์เป็นอย่างดี และบอกตามตรงว่า ทีมพยาบาลของไอซียู เก่งกว่าที่แผนกเด็กมากๆๆ มีความเอาใจใส่ที่ดีมากกว่ามากๆๆ
ขณะที่ผมพิมพ์อยู่นี้ เข้าสู่เช้าของวันที่ 2 มี.ค. แล้ว ผมได้เข้าไปเยี่ยมน้องปอนด์เมื่อตอนเกือบสี่ทุ่มของวันที่ 1 ที่ผ่านมา น้องปอนด์อาการดีขึ้นมาก ใช้เครื่องช่วยหายใจในอัตราที่ต่ำลง และคาดว่าวันนี้คงจะถอดน้ำเกลือออกได้แล้ว
พวกเราทุกคนในครอบครัวต่างให้กำลังใจน้องปอนด์ และก็บอกว่า เอานะ.. รีบๆ หายไวๆ นะ.. เราจะได้พาน้องปอนด์กลับบ้านกัน
หวังว่าในการเขียนบันทึกครั้งต่อไป จะมีความคืบหน้าในเชิงที่ดีขึ้น และผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า น้องปอนด์จะได้มาเขียนเล่าประสบการณ์ด้วยตัวของน้องปอนด์เอง ให้กับเพื่อนๆ ท่านอื่นๆ ฟังเพื่อเป็นประสบการณ์ที่น่าจดจำ นะครับ
Saturday, March 1, 2008
Subscribe to:
Post Comments (Atom)
No comments:
Post a Comment